By SME in Focus - December 12, 2023
หากพูดถึง Privilege หรือ ‘สิทธิพิเศษ’ ที่มีเฉพาะบางคน คุณอาจนึกถึงการร่วมเป็นสมาชิก ทำ Member card กับแบรนด์สินค้าและบริการ ซึ่งเมื่อสมัครแล้ว มักจะพ่วงมาด้วย Privilege ที่มีความพิเศษกว่าใคร เช่น ส่วนลด โปรโมชั่น ของแถม หรือสิทธิ์การทำกิจกรรมที่มีเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
บทความนี้ Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับการบริการด้านไลฟ์สไตล์ความหรูหราขั้นกว่า จาก WRS GROUP ผู้นำด้านการบริการลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์ ให้บริการลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่ง (High Net Worth Individual – HNWI) ที่มีศักยภาพสูง บริษัทแรกในประเทศไทย ที่เข้ามาบุกเบิกในธุรกิจแห่งความหรูหรานี้
คุณจักรพันธ์ รัตนเพชร กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจดับบลิวอาร์เอส (World Reward Solutions) และซิลเวอร์ โวยาจ คลับ แบรนด์ (Silver Voyage Club) เผยว่า ธุรกิจเราเป็น Lifestyle Management และ Concierge Service ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2561 โดย WRS GROUP ถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจการบริการลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์แก่ลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง Core Business คือ เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการด้าน Digital Service Solutions, CRM, Loyalty program และ Privilege Management ให้กับกลุ่มลูกค้าขององค์กร เช่น ลูกค้าธนาคารชั้นนำ บัตรเครดิต ประกันภัย และกลุ่มบริษัทจากต่างประเทศ ที่ต้องการการดูแลลูกค้าระดับวีไอพี หรือลูกค้าบุคคลสำคัญต่าง ๆ
ธุรกิจของเรา เริ่มมีการแตกไลน์เพิ่มขึ้นในปี 2563 โดยเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ Silver Voyage Club และ White Glove Service ซึ่งยังเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม แต่เพิ่มการให้บริการดูแลลูกค้าที่ตรงกลุ่มมากขึ้น ทั้งนี้ WRS GROUP จะเป็นรูปแบบธุรกิจ B2B2 ดูแลลูกค้าองค์กรเป็นหลัก 70% แต่เราเห็นโอกาสจากกลุ่มเป้าหมายรายย่อย หรือกลุ่ม B2C อีก 30% จึงเปิดตัวบริการ Silver Voyage club เพื่อทำระบบ Member ship เป็น Hi-Tech Hi-Touch ดูแลลูกค้ากำลังซื้อสูง ที่ต้องการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์
คุณจักรพันธ์ เล่าย้อนถึงที่มาก่อนก้าวมาทำธุรกิจตัวเองว่า ก่อนหน้านี้ เราทำงานให้แบรนด์ข้ามชาติ ชื่อQuintessentially ซึ่งเป็น Lifestyle Concierge Service ของประเทศอังกฤษ มีสาขากว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในไทย ลูกค้าหลักคือกลุ่มเศรษฐี ระดับ Top 100 ให้บริการผู้ช่วยส่วนตัว ดูแลทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการแบบ On Demand Service ประมาณ 5 ปี จากนั้นย้ายมาทำงานอีกที่หนึ่ง คือ Aspire Lifestyles Services รูปแบบบริการคล้ายกัน คือผู้ช่วยส่วนตัว แต่เน้นดูแลลูกค้าองค์กร Express และนักธุรกิจต่างประเทศ ทำให้มีฐานลูกค้าจากที่เคยดูแลอยู่ หลังสั่งสมประสบการณ์กว่า 15 ปี จึงเปิดบริษัทของตัวเอง โดยชูจุดเด่นคือเรื่อง Customize ให้เข้ากับธุรกิจในประเทศไทย เพื่อสร้างความต่าง ซึ่งเราเป็นบริษัทแรกของไทย ที่ทำธุรกิจด้านนี้
หากคุณเคยเดินทางไปต่างประเทศ แล้วมีโอกาสใช้บริการในเลานจ์ หรือห้องรับรองที่มีไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิพิเศษต่าง ๆ นั่นคือ หนึ่งในบริการที่มีในแพลตฟอร์มของ WRS GROUP
บริการของ WRS GROUP แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
1.ลูกค้าองค์กร เราจะให้บริการอยู่เบื้องหลัง เช่น หากลูกค้าเป็นผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ แล้วธนาคารมี Privilege Program ร่วมกับเรา โดยมีสิทธิประโยชน์การบริการด้านกิน ดื่ม เที่ยว ให้เลือก เช่นรับประทานอาหารในโรงแรมชั้นนำ ใช้รถลีมูซีนสำหรับเดินทาง ทั้งในและต่างประเทศ หรือเข้าพักในเลานจ์ของสนามบินชั้นนำกว่า 600 แห่งทั่วโลก
2. ลูกค้า Membership แบบ B2C Model สามารถใช้บริการผ่านแบรนด์ Silver Voyage club ซึ่งจะมีแพ็คเกจเริ่มต้นที่ 200,000 บาท ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ตาม Season ที่ออกมา Benefit หลัก คือตั๋วเครื่องบิน เช่น ตั๋ว Business Class เดินทางไปที่ไหนก็ได้ในโลก โดยสายการบินที่เป็นพันธมิตรของเรา และยังใช้ร่วมกับโรงแรมชั้นนำกว่า 100 แห่งทั่วโลก รวมถึงนั่งรถลีมูซีนได้แบบไม่จำกัด เป็นต้น
คุณจักรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจ Privilege ของเรา จะนำเอาความ Hi -Tech กับ Hi - Touch มารวมกัน เพื่อสร้างความต่างจากคู่แข่ง เราไม่ได้มีแค่ Digital Platform ทำงาน แต่มีพนักงานที่เรียกว่า Concierge Service ให้บริการด้วย เพราะลูกค้ากลุ่มตลาดบน อาจจะไม่สะดวก หรือขาดความชำนาญเรื่องการใช้แอปพลิเคชัน เราจึงเพิ่มส่วนนี้ให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะรับ Privilege Program ผ่านแอปพลิเคชัน หรือให้เจ้าหน้าที่ Concierge Service ของเราจัดการให้ นอกจากนี้ เรามี The Butler Service ผู้ช่วยส่วนตัว ระดับวีไอพีบริการถึงที่บ้านด้วย
นอกจากฐานลูกค้าเดิม เรายังขยายกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเราจะ Create ธุรกิจให้แตกต่างจากแบรนด์ที่เราเคยร่วมงาน ที่มีข้อจำกัดเพราะเป็นแบรนด์ข้ามชาติ แต่เราเป็น Local Company มีความยืดหยุ่นมากกว่า ปัจจุบัน เรามีลูกค้ากลุ่มองค์กรชั้นนำกว่า 100 แห่ง ทั้งในประเทศและกลุ่มอาเซียน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม รวมถึงประเทศทางตะวันออกกลาง พนักงานทุกคน จึงต้องมีความเป็น International Service เพื่อให้บริการลูกค้าต่างชาติ
Concierge Service ของเราให้บริการ 24 ชั่วโมง พนักงานทุกคนสามารถพูดได้ 5 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และอาหรับ เราจะคัดสรรพนักงานเป็นอย่างดี เพื่อรองรับลูกค้าระดับบนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา เป็นเหตุผลที่เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรชั้นนำ
พันธมิตร และเครือข่าย คือปัจจัยความสำเร็จ
ในภูมิภาคอาเซียน ธุรกิจ Regional service รูปแบบนี้มีน้อยราย ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความร่วมมือกับพันธมิตรในการทำ Cross Border Program ทั้งสิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา เพื่อขยายตลาดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การเข้าไปทำตลาดในประเทศต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย การที่เราใช้รูปแบบของความร่วมมือกับพันธมิตรที่มี Relationship กับลูกค้าระดับวีไอพี อยู่แล้ว ทำให้เราขยายตลาดได้เร็วขึ้น
ทำไมลูกค้าต้องเลือกบริการจาก WRS GROUP
สมมุติผู้ถือบัตรระดับ Leader ของธนาคารชั้นนำ แต่ละปีจะมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่จะอยู่ในกรอบที่กำหนด แต่ความพิเศษที่ให้มา ไม่ได้แปลว่าจะเป็นทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ เราจะหาข้อมูลว่าลูกค้าผู้ถือบัตรต่าง ๆ มีความต้องการด้านใดบ้าง แล้ว Customize ให้ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้า โดยผ่านแพลตฟอร์มของ Silver Voyage club ซึ่งมีความ Flexible สิ่งเหล่านี้คือแรงจูงใจที่สำคัญ เพราะลูกค้าเลือกได้เอง และได้มากกว่า
ด้านการแข่งขันในธุรกิจ WRS GROUP มีจุดเด่นที่เหนือกว่า 3 เรื่อง คือ
1.High Tech + Hightouch ธุรกิจแบบเราในตลาดมีความเป็น Tech Company ทุกอย่างผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด บางธุรกิจเน้นการให้บริการแต่ไม่มีเทคโนโลยี แต่บริษัทเรา แม้จะเต็มไปด้วยความทันสมัย คือมีแพลตฟอร์ม แต่เราไม่ทิ้งการบริการโดยคน ที่มีความ Hospitality Professional ด้านการบริการ เราจึงเป็นรายเดียวในไทยที่ผสมผสานทั้ง 2 ส่วนนี้เข้าด้วยกัน
2.พันธมิตรที่มีอยู่ทั่วโลก ต่างจากธุรกิจทั่วไปที่โฟกัสเฉพาะพันธมิตรในประเทศเป็นหลัก ขณะที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรอยู่ทั่วโลก ทั้งสนามบิน เรือสำราญ รถลีมูซีน ที่เราจองได้ทั่วโลก เครือโรงแรม ร้านอาหาร กว่า 5,000 แห่งทั่วโลก
3.พนักงาน ที่เราฝึกอบรมผ่านหลักสูตร White Glove academy การันตีได้ได้ถึงคุณภาพ มาตรฐานการบริการระดับสูง
‘White Glove academy’ สถาบันสอนการให้บริการระดับเทพ
การเลือกสรรพนักงาน และการเทรนนิ่ง คือสิ่งที่ WRS GROUP ให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อการบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าวีไอพี โดยจะใช้บุคลากรประสบการณ์สูงในสายงานธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม สายการบิน และธุรกิจท่องเที่ยว มาช่วยเทรนนิ่ง เป็น Intern academy สำหรับฝึกอบรมพนักงานของเรา เพื่อให้ดูแลลูกค้ากลุ่มไฮเน็ตเวิร์ธ (High net worth) และอัลตราลักชูรี (Ultra luxury) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ผู้ฝึกสอนมีทั้งจาก Internal และ External คือ กลุ่ม Inhouse Management มีประสบการณ์กว่า 15 ปีในสายงาน ทุกคนเป็นระดับ Leader ในสายงานอยู่แล้ว
ส่วนที่ 2 คือ Professional ที่มีประสบการณ์สูงในสายงานต่าง ๆ เข้ามาฝึกอบรมให้พนักงานเป็นมืออาชีพ ให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด
นอกจากพนักงาน ยังมีลูกค้าองค์กรที่สนใจอยากให้เราเข้าไปฝึกอบรมให้กับคนในองค์กรของเขา โดยเราเริ่มเข้าไปเทรนนิ่งบ้างแล้ว และอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในระยะต่อไป เนื่องจากเรามี Know How และผู้เชี่ยวชาญ ธุรกิจนี้จึงเป็นอีกหนึ่ง Business Unit ที่น่าสนใจ
ล้ม แล้วลุก เพื่อโต อย่างแข็งแกร่ง
ย้อนกลับไปช่วงโควิด ธุรกิจท่องเที่ยวและการเดินทาง ได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งธุรกิจท่องเที่ยว นับเป็น 30% ของเรา ถือว่ากระทบหนักมาก หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เราได้ทำธุรกิจใหม่ขึ้นมา เป็น Luxury Travel หรือธุรกิจท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง เราจะเจาะกลุ่มนี้มากขึ้น ทั้งตลาด Inbound และ Outbound โดยการชูเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม เข้ามาช่วยเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น
จากเดิม เรามีบริการรูปแบบนี้ในกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสิทธิประโยชน์การเดินทางรูปแบบต่าง ๆ ได้อยู่แล้ว แต่ในอนาคต เราจะเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ ไปยังกลุ่ม B2C หรือลูกค้าบุคคล และผู้ที่มาจากต่างประเทศ ให้สามารถใช้บริการได้ เพราะประเทศไทยมีลูกค้าเดินทางจากทั่วโลกจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโต เราจึงเห็นโอกาสและเทรนด์ ว่าจะมีการเติบโตมากขึ้น
ปัจจุบัน เรามีสัดส่วนลูกค้าองค์กร (B2B) และลูกค้าบุคคล (B2C) อยู่ที่ 70:30 โดยปี 2567 เราตั้งใจปรับสัดส่วน เป็น 60:40 เพื่อขยายฐานลูกค้าบุคคลมากขึ้น ซึ่งการให้บริการไม่ได้แตกต่างกันมาก ลูกค้าองค์กรจะมีข้อจำกัดมากกว่าว่าเราต้องดูแลในรูปแบบไหน มีกรอบ KPI ที่ต้องทำตามเป้าหมาย แต่ลูกค้าบุคคล เราสามารถให้บริการแบบยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งลูกค้าบุคคล มีทั้งผู้ที่เป็นลูกค้าองค์กรมาก่อน เคยได้รับบริการจากเราและติดใจ อีกส่วนหนึ่งคือ การทำประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และแมกกาซีน ซึ่งผลตอบรับดีมาก ทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น
แพ็คเกจสุดหรูหรา ราคาเริ่มต้นที่ 200,000 – 1,000,000 บาท
Privilege Program ของเราจะเปลี่ยนไปตาม Seasoning โดยแพ็คเกจเริ่มต้น จะเป็นตั๋วเครื่องบิน Business Class ไปที่ใดก็ได้ในโลก รวมถึงเลือกรับสิทธินั่งรถลีมูซีน รับ-ส่ง แบบไม่จำกัดจำนวน ส่วนแพ็คเกจสูงสุด จะเป็นสิทธิประโยชน์แบบ Customize เหมือนเครดิตที่ลูกค้านำมาใช้กับบริการของเราแบบตรงความต้องการ เช่น บริการเครื่องบินส่วนตัว หรือ Private Jet หรือ อยากให้เรารังสรรค์ประสบการณ์แบบพิเศษ เช่น นำเชฟระดับมิชลิน จากต่างประเทศมาทำอาหารให้ที่บ้าน ก็ทำได้
ตัวอย่างลูกค้ารายล่าสุด เราจะบินไปจัดดินเนอร์มื้อพิเศษให้กลุ่มมหาเศรษฐีประเทศซาอุดิอาราเบีย ท่ามกลางทะเลทราย โดยมีเชฟชั้นนำจากทั่วโลก 12 ท่าน ไปทำอาหารให้รับประทาน บริการของเรา มีตั้งแต่ Daily Lifestyle จนถึง Extraordinary Experience ประสบการณ์สุดหรูที่เงินหาซื้อไม่ได้
ผลงานที่เราภาคภูมิใจอย่างมาก คือได้รับการแต่งตั้งให้จัดทำ Smart Concierge Application และเป็นผู้ให้บริการ One-stop Hospitality Service อย่างเป็นทางการของงาน APEC CEO Summit 2022 โดยเราได้เตรียมการต้อนรับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) เพื่อทรงเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก เอเปค 2022 พร้อมทีมงานกว่า 800 ท่าน ด้วยศักยภาพของเราซึ่งมีทรัพยากร ประสบการณ์ และความพร้อมที่จะยกระดับการให้บริการด้านลักซ์ชัวรี่ไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยและเอเชีย ให้เป็นผู้นำในตลาดโลก
สำหรับสัดส่วนลูกค้าคนไทยเรามี 80% ลูกค้าต่างชาติ 20% ปีหน้าอาจจะปรับเป็น 70:30 เนื่องจากมองว่าลูกค้าต่างชาติ จะ Welling to spend หรือพร้อมที่จะใช้จ่าย ถ้าเรามอบสิ่งที่เขาต้องการได้ แต่ด้วยจำนวนที่มีไม่มาก ทำให้เกิดการใช้บริการซ้ำน้อยกว่า เราจึงอยาก Balance ลูกค้า 2 กลุ่มนี้ให้ลงตัวขึ้น
อีกทั้งจะเจาะกลุ่มลูกค้าภูมิภาค ทั้งกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะลูกค้าหลัก คือกัมพูชา และเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาด Blue Ocean หรือตลาดใหม่ที่ยังไม่มีธุรกิจประเภทนี้ให้บริการ กลุ่มคนรวยเติบโตต่อเนื่อง การเติบโตของคนรวยกัมพูชา มากกว่า 12% ต่อปี ซึ่งเรามีพันธมิตรอยู่แล้ว ส่วนเวียดนามมีการเติบโตสูงมาก เราเน้นลูกค้าองค์กรชั้นนำที่เป็น Regional service รวมถึงกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งรู้จักเรามากขึ้นผ่านงาน APEC CEO Summit 2022
ธุรกิจความหรูหรา กับกลยุทธ์ 5S สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณจักรพันธ์ เผยถึงกลยุทธ์สร้างการเติบโตให้ธุรกิจ WRS GROUP ด้วย 5S ประกอบด้วย
1) Strategic partner หรือพันธมิตร ส่วนสำคัญที่ทำให้เราให้บริการลูกค้าได้
2) System & Innovation ที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อการให้บริการแบบไร้รอยต่อ
3) Staff หรือพนักงานของเรา ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด
4) Solution เรามีช่องทางในการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ทุกเรื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดทั้งด้านการประหยัดต้นทุน และเพิ่ม KPI ในฝั่งลูกค้าของเราด้วย
5) Sustainability ความยั่งยืน คือสิ่งที่เรามองว่าเป็น Long Term Relationship
ทิ้งท้าย...สำหรับคนทำธุรกิจ
ธุรกิจ SME แน่นอนว่าเรื่องเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญ ในการดำเนินการแบบ B2B อาจจะมีเรื่องเครดิตเทอมต่าง ๆ เพราะเราต้องจ่ายก่อนเกือบ100% จึงจำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอในการดำเนินกิจการ การหาพันธมิตรเรื่อง Financial เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ รวมถึงธุรกิจของเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้น คือตอบคำถามเหล่านี้
คุณจักรพันธ์ กล่าวว่า “ก่อนอื่นคือ ถามตัวเองว่า คุณมี Passion แค่ไหน? อยากทำ หรืออยากตามเทรนด์ เพราะการเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย ความท้าทายและปัญหามีตลอด ถ้า Passion ไม่มากพอ คุณจะไม่มีความสุขกับการทำงาน ส่วนที่สอง คือแหล่งเงินทุนในการเริ่มต้น เพราะทำธุรกิจต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ส่วนที่สาม ต้องดูความพร้อมด้วยว่าคุณจะ Scale ธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างไร เป็น 3 ข้อที่ผมฝากไว้
ส่วนคนที่สนใจอยากเข้ามาทำธุรกิจ Luxury lifestyle Service ขณะนี้คู่แข่งมีไม่มาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจข้ามชาติ ตลาดจึงยังเปิดกว้าง แต่คุณต้องมีความชำนาญมากพอ ต้องบอกก่อนว่า ผมใช้เวลา 15 ปี เก็บเกี่ยวความรู้ ผ่านการลองผิดลองถูก กว่าจะมั่นใจและเปิดบริษัท WRS GROUP ขึ้นมา แม้ว่าช่วงหนึ่งเราเจอวิกฤตโควิด แต่ก็ผ่านสถานการณ์ ล้มและลุกใหม่ได้ นั่นมาจากการทำงานจริง ๆ และแก้ปัญหาด้วยสิ่งที่เรียกว่า ประสบการณ์
คุณพุธิดล ครุฑานุช ผู้อำนวยการบริหารสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์กลุ่มธุรกิจ WRS GROUP กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจ Loyalty Program ในยุโรป มีมานานมาก แต่ในประเทศไทย อาจจะเป็นเรื่องใหม่ เรียกว่าเป็น Luxury lifestyle Management ที่เราเป็นธุรกิจแรก และเป็นบริษัทแรก ๆ ในประเทศไทย ที่ให้บริการด้านนี้ จึงต้องสร้างการรับรู้และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งการสร้างแบรนด์ที่ต้องมีการ Collaboration หรือเป็นพาร์ตเนอร์ระหว่างกัน สิ่งสำคัญ คือต้องเลือกจับคู่กับแบรนด์ที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกัน เพราะพาร์ตเนอร์เองย่อมมองหาแบรนด์ที่เทียบเท่า หรือใกล้เคียงกับเขา เพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ กับการทำงาน แตกต่างกัน ธุรกิจนี้คุณต้องมี Skill 3 อย่างที่จำเป็น คือ Management Operation และ Creative 3 ทักษะนี้ จะทำให้คุณเข้าใจการงาน นอกจากนี้ คุณต้องมี Taste (รสนิยม) ที่จะบ่งบอกได้ถึงผลงานที่ออกมาสู่สายตาคนภายนอก และ Taste ของคุณ สร้างความพอใจของลูกค้าวีไอพีได้มากพอไหม
Comments